หัวหน้าครูผู้สอน ผู้มีประสบการณ์สอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทย!
เบิกบานและมุ่งมั่นตลอดเวลา ชอบท้าทายสิ่งใหม่ๆอย่างกระตือรือร้น!
ช่วยเล่าประสบการณ์การเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
เริ่มแรกสอนที่โรงเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ประเทศไทยประมาณ 2 ปีค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็กลับมาสอนที่ซัปโปโร ประมาณ 8 ปีได้ ระหว่างนั้นก็ได้พบกับผู้คนมากมาย สนุกมากๆเลยค่ะ
ทำไมถึงมาเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นได้คะ?
ตอนม.ต้น อยู่ๆก็รู้สึกหลงไหลประเทศอินเดียขึ้นมา จากนั้นก็เลยเดินทางท่องเที่ยวไปหลายๆประเทศในแถบเอเชียเป็นหลัก ระหว่างที่เดินทาง ก็เริ่มรู้สึกว่า “อยากลองใช้ชีวิตที่นี่ดูสักครั้งจัง” จุดเริ่มต้นน่าจะเป็นตรงนี้ค่ะ เหตุผลแรกสุดที่เริ่มสอนนั้นมาจากความรู้สึกที่ “อยากลองใช้ชีวิตในต่างประเทศ” แต่เมื่อได้มองประเทศญี่ปุ่นและภาษาญี่ปุ่นใหม่ โดยมองจากมุมมองของต่างประเทศดูก็รู้สึกสนุกขึ้นมา ซึ่งก็ได้สอนภาษาญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
บอกจุดเด่น จุดด้อยให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
จุดด้อยคือการเป็นคนที่ทำเรื่องอะไรไปเรื่อยๆโดยไม่มีแบบแผน แต่ในทางกลับกันเมื่อประสบปัญหาก็จะไม่ผลีผลามใจร้อน ซึ่งก็ถือเป็นจุดแข็งค่ะ
แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ ทำอะไรบ้างคะ
จะใช้เวลานอนซะส่วนใหญ่ค่ะ ยิ่งฤดูหนาวนี่แทบไม่ออกบ้านเลย ชีวิตประจำวันเหมือนเป็นหมีจำศีล ปกติจะอ่านหนังสือหรือมังงะอยู่ที่บ้านค่ะ
มีสิ่งใดที่อยากแนะนำเกี่ยวกับฮอกไกโดหรือที่ซัปโปโรบ้างคะ
ไม่เชิงว่าเป็นการแนะนำนะคะ จะพูดถึงสเน่ห์ของที่นี่มากกว่า ซัปโปโรเป็นเมืองขนาดพอดีกับการอยู่อาศัย อยู่ใกล้ภูเขาและทะเล แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากเหมือนอยู่ในชนบท ความพอดีคือข้อดีของที่นี่ค่ะ
ชอบภาษาญี่ปุ่นที่ตรงไหนคะ? แล้วมีคำภาษาญี่ปุ่นที่ชอบไหมคะ?
สิ่งที่รู้สึกว่าสะดวกก็คือ การใช้คันจิ ค่ะ เพราะถึงแม้จะไม่รู้ความหมายของคำมาก่อน แต่มีคำจำนวนมากที่พอจะเข้าใจความหมายได้จากตัวคันจิ นับว่าสะดวกมากๆค่ะ
ส่วนที่รู้สึกว่าน่าสนใจก็คือ คำว่า “โบโตะสุรุ” (เหม่อลอย) หรือ “โกะโระโกะโระสุรุ” (กลิ้งไปกลิ้งมา ขี้เกียจ) เป็นต้นค่ะ คือ การสร้างคำโดยเติม “สุรุ” เพื่ออธิบายว่าไม่ทำอะไรเลยเข้าไปมันน่าสนใจดี
ถ้ามีนิยายหรือมังงะญี่ปุ่นที่ชอบ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ
อืม เลือกไม่ถูกเลย…ถ้าเป็นมังงะที่อ่านช่วงนี้ก็ “ Golden Kamui” ค่ะ เรื่องนี้ใช้ฮอกไกโดที่ย้อนยุคไปนิดนึง เป็นสถานที่ดำเนินเรื่อง แล้วในเรื่องมีเด็กผู้หญิงเผ่าไอนุโผล่มาด้วย ส่วนถ้าเป็นนิยาย ก็จะชอบนิยายของนักเขียนชื่อ ดะไซโอะซะมุ
เรื่องดีๆที่ได้รับจากการเรียนภาษาญี่ปุ่นมีอะไรบ้างคะ?
ไม่ใช่เฉพาะ “ภาษาญี่ปุ่น” นะคะ ถ้าพูดถึง “สิ่งดีๆที่ได้จากการเรียนภาษาต่างประเทศ” อย่างแรกเลยคือ ไม่เพียงแต่ไวยากรณ์เท่านั้นแต่ยังได้เห็นวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆที่สะท้อนออกมาผ่านทางภาษาค่ะ อย่างที่สองคือ “สื่อสารด้วยภาษา สื่อสารด้วยใจ” สโลแกนของโรงเรียนเราเลยค่ะ สิ่งสำคัญคือ ก่อนอื่นเราจะกำหนดความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดลงไป
แล้วเริ่มกล่าวเป็นคำพูดออกมา อย่างเช่น หากเรารู้ภาษาญี่ปุ่นแค่คำว่า “อะริงะโต” (ขอบคุณ) เราจำแล้วพยายามจะสื่อสารออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ความรู้สึกที่ส่งไปถึงคนฟัง มันมีมากกว่า
ตัวอักษรไม่กี่ตัวที่ออกเสียงมาอีกค่ะ
เรื่องดีๆที่ได้จากการเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นมีอะไรบ้างคะ
มีหลายอย่างเลยค่ะ อย่างช่วงเปิดเรียน ก็จะได้ยินภาษาต่างๆตามห้องเรียนแตกต่างกันไป แต่พอเรียนไปสักพัก นักเรียนกลับใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษากลางในการสื่อสาร แล้วเราได้เห็นรอยยิ้มทุกคนในวันจบการศึกษาก็รู้สึกดีใจค่ะ
มีเรื่องใดจะฝากถึงทุกๆท่านที่เรียนภาษาญี่ปุ่นไหมคะ
อย่างแรกเลย อยากบอกว่านับถือทุกคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ ถ้าดิฉันไม่ใช่คนญี่ปุ่นแล้วละก็คงไม่เรียนภาษาญี่ปุ่นแน่ๆค่ะ ทั้งที่ต้องจำตัวอักษรเยอะแยะมากมายแต่ประเทศที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นกลับมีเพียงประเทศเดียว แถมการที่ต้องคอยระวังไม่ให้พูดตรงเกินไปก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยนะคะ นับถือคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นจริงๆค่ะ
อีกอย่างคืออยากบอกว่าขอบคุณมากค่ะ การที่มีคนสนใจในประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่น รวมถึงการเรียนภาษาญี่ปุ่น ทำให้รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดนี้อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ภาษาถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง เป็นทั้งเครื่องมือช่วยปกป้องตัวเองทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย หวังว่าเครื่องมือนี้จะช่วยให้ความฝันและเป้าหมายของทุกคนกลายเป็นจริงนะคะ
อดีตครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนมัธยมปลายของรัฐ ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว
ด้วยประสบการณ์ที่เคยได้ไปเรียนต่อในต่างประเทศมาก่อน จึงเข้าใจความลำบากและความรู้สึกของนักเรียนต่างชาติ
คราวนี้คุณครูมัทสึชิมะขอเป็นฝ่ายสัมภาษณ์คุณครูโอะงุระโยโกะ ผู้ทุ่มเทกับทุกอย่าง และมักฝึกฝนอย่างเต็มที่ จนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ!
ช่วยเล่าประสบการณ์การเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
ที่ผ่านมาสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่น 5 ปีค่ะ
ทำไมถึงมาเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นได้คะ?
ส่วนตัวเคยไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ ก็เลยคิดว่าคราวนี้หากตัวเองช่วยซัพพอร์ตนักเรียนต่างชาติได้ก็คงจะดี จึงได้มุ่งมั่นในการเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นค่ะ
บอกจุดเด่น จุดด้อยให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
เป็นคนใจร้อน แล้วก็จำชื่อใครไม่ค่อยได้ค่ะ ถ้าหากเรียกชื่อผิดอย่างไร อภัยให้ด้วยนะคะ ... ส่วนจุดเด่นคือ นอนได้ทุกที่ ทานได้ทุกอย่างค่ะ
แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ ทำอะไรบ้างคะ
ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนจะขับรถวนไป ตระเวนหาร้านขนมปังบ้าง ซื้อผักออแกนิกจากชาวสวนบ้าง ส่วนถ้าเป็นฤดูหนาวก็จะไป เล่นสกีค่ะ ขับรถจากบ้านไปลานสกีแค่ 15 นาที เมื่อไหร่ที่อยากเล่นก็ไปเลย
มีสิ่งใดที่อยากแนะนำเกี่ยวกับฮอกไกโดหรือที่ซัปโปโรบ้างคะ
หิมะขาวโพลน อากาศสะอาดสดชื่น ถนนกว้างๆ อาหารอร่อย ไม่ใช่แค่ซูชินะคะ ผักเอย นมเอย ผลไม้เอย อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ หวังว่าทุกคนจะได้ลิ้มลองอาหารฮอกไกโดนะคะ
ช่วงที่ได้หยุดพักจากการทำงาน ปกติทำอะไรบ้างคะ
ตอนนี้เรียนภาษาจีนอยู่ค่ะ การออกเสียงค่อนข้างยากนะคะ ตอนนี้รู้สึกว่าภาษาญี่ปุ่นง่ายขึ้นมาทันทีเลยค่ะ (หัวเราะ)
ชอบภาษาญี่ปุ่นที่ตรงไหนคะ? แล้วมีคำภาษาญี่ปุ่นที่ชอบไหมคะ?
ชอบตัวอักษรฮิรากานะค่ะ ตอนเขียนจะชอบรู้สึกว่าคนสมัยก่อนเขาก็ช่างคิดน้อ
ส่วนคำที่ชอบก็คือ “ รู้ไหมทำไมตาถึงอยู่ข้างหน้า? เพราะเราต้องเดินต่อไปข้างหน้าไงล่ะ” (จากแอนิเมชันเรื่องโดราเอม่อนค่ะ) ค่ะ
ถ้ามีนิยายหรือมังงะญี่ปุ่นที่ชอบ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ
ตอนประถมคืออ่านมังงะเยอะมาก เยอะถึงขั้นอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนมังงะเลยค่ะ แต่หลังๆนี้ไม่ค่อยได้อ่านเลย กลับกันตอนเด็กๆ ไม่ค่อยอ่านนิยายญี่ปุ่นเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้ก็มีอ่านงานของ คะวะบะตะ ยะสึนะริ ค่ะ รู้สึกว่าใช้ภาษาได้งดงาม แต่ก็อ่านยากเหมือนกัน
เรื่องดีๆที่ได้รับจากการเรียนภาษาญี่ปุ่นมีอะไรบ้างคะ?
การเรียนภาษาญี่ปุ่นทำให้เข้าใจความรู้สึกของคนญี่ปุ่นนะคะ ความรู้สึกของทุกๆคนก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้เช่นกันค่ะ มิใช่เพียงความหมายของถ้อยคำอย่างเดียวนะคะ แต่ถ้าหากทุกคนสามารถถ่ายทอด "ความรู้สึก" ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังออกมาได้ด้วยก็จะดีมากๆเลยค่ะ เราจะช่วยซัพพอร์ตนักเรียนทุกคนอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนสามารถสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้อย่างเชี่ยวชาญและได้ใช้ชีวิตที่นี่อย่างเต็มที่ค่ะ
มีเรื่องใดจะฝากถึงทุกๆท่านที่เรียนภาษาญี่ปุ่นไหมคะ
เรื่องที่ยังไม่รู้ ก็เอามาคิดไปด้วยกันนะคะ จะรอวันที่ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับทุกคนค่ะ!